Previous Lesson -- Next Lesson
ค) ธรรมาจารย์นำหญิงล่วงประเวณมาทดลองพระเยซู (ยอห์น 8:1-11)
ยอห์น 8:1-6
1 แต่พระเยซูเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ 2 พอรุ่งสางพระองค์ทรงมาที่ลานพระวิหารอีก คนทั้งปวงพากันมาชุมนุมอยู่รอบพระองค์และพระเยซูประทับนั่งเพื่อสั่งสอนพวกเขา 3 เหล่าธรรมาจารย์และพวกฟาริสีนำตัวหญิงคนหนึ่งมา นางถูกจับฐานล่วงประเวณี พวกเขาให้นางยืนอยู่ต่อหน้าคนกลุ่มนั้น 4 แล้วทูลพระเยซูว่า “ท่านอาจารย์ หญิงผู้นี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี 5 ในหนังสือบทบัญญัติโมเสสสั่งให้เราเอาหินขว้างหญิงที่ทำอย่างนี้ ท่านจะว่าอย่างไร?” 6 เขาใช้คำถามนี้เป็นกับดักเพื่อหาเหตุกล่าวโทษพระองค์
สมาชิกของสภาได้จากไปด้วยความโกรธต่อบ้านเมือง เพราะว่าพระเยซูได้รอดจากน้ำมือของพวกเขาไปได้ ฝูงชนสรุปว่าพวกผู้นำได้ยอมให้พระเยซูมีอิสระที่จะพูดในพระวิหาร แต่สมาชิกเหล่านี้ได้ยืนกรานที่จะสอดแนมเพื่อวางกับดักจับพระองค์ พระเยซูได้ออกไปจากกำแพงเมืองในตอนเย็น ข้ามหุบเขากิดโรนไป
วันต่อมาพระเยซูได้กลับไปยังศูนย์กลางเมือง เข้าไปในวิหารที่แน่นขนัด พระองค์ไม่ได้หนีเมืองหลวงที่จัดเทศกาลอยู่เพิงแต่ยังทำการล้อมรอบท่ามกลางศัตรู ฟาราสีได้ทำตามอำนาจบังคับของตำรวจที่มีศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่งานเลี้ยงเป็นโอกาสงานรื่นเริงและมีการดื่มไวน์ พวกเขาได้จับหญิงที่ล่วงประเวณีคนหนึ่ง เพื่อทดสอบพระเยซูด้วยเรื่องนี้ เพื่อพระเจ้าและผู้คนจะได้เห็นการผ่อนผันใด ๆ ที่พระองค์กระทำว่าเป็นการละเมิดและฝ่าฝืนขนบธรรมเนียมของประชาชาติ แต่ถ้าพระองค์ยืนกรานการลงโทษว่าถูกต้องตามกฎหมายนั่นก็จะพิสูจน์ถึงความเคร่งครัดของพระองค์พวกเขาต้องการฟ้องร้องพระองค์ให้เสียชื่อเสียงไป การพิพากษาและตัดสินความของพระองค์เหนือหญิงคนนี้ จะเป็นการพิพากษาเหนือทุกคนให้ได้รับความอับอายโดยการตำหนิอย่างมีศีลธรรม ดังนั้นพวกเขาจึงได้รอคอยการตัดสินของพระองค์อย่างกระวนการะวาย
ยอห์น 8:7-9ก
7 เมื่อพวกเขายังถามไม่หยุด พระองค์ก็ทรงยืดพระกายขึ้นแล้วตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้าผู้ใดในพวกท่านไม่มีบาป ให้ผู้นั้นเอาหินขว้างนางเป็นคนแรก” 8 แล้วทรงโน้มพระกายลงเขียนที่พื้นอีก 9 ถึงตรงนี้พวกที่ได้ยินก็ทยอยออกไปทีละคนเริ่มจากคนเฒ่าคนแก่
เมื่อฟาราสีได้กล่าวหาหญิงคบชู้ต่อหน้าพระเยซู พระองค์ก้มลงและใช้นิ้วเขี่ยที่พื้นดิน แต่เราไม่รู้ว่าพระองค์เขียนอะไร บางทีเราอาจจะเห็นคำบัญชาใหม่ในคำ ๆ เดียว นั่นคือ ความรัก
เมื่อผู้อาวุโสล้มเหลวที่จะเห็นการ ”การลังเลใจ” ของพระองค์และไม่ได้ตระหนักว่าผู้พิพากษาของโลกนั้นมีความอดทน และต้องการทิ่มแทงไปที่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของพวกเขา พวกเขาคิดว่าได้ทำให้พระองค์เข้าไปพัวพันในกับดักอีกอันหนึ่งแล้ว
พระเยซูยืนขึ้นและมองไปที่พวกเขาอย่างเศร้าใจ มันเป็นการมองของสวรรค์ และพระคำของพระองค์เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ พระองค์กล่าว “ตัดสิน” ว่า “ใครก็ตามที่ไม่มีบาปท่ามกลางเจ้า ขอให้เขาขว้างด้วยหินใส่นางก่อน” พระเยซูไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสักอย่างเดียวของกฎบัญญัติ แต่กำลังจะทำให้กฎบัญญัตินั้นสมบูรณ์ หญิงคบชู้สมควรตาย สิ่งนี้พระเยซูยอมรับว่ามันถูกต้อง
โดยการกระทำของพระองค์ พระเยซูได้ตัดสินผู้ที่ “เคร่งครัด” พอ ๆ กับพวกคบชู้ ดังนั้น พระองค์ได้ท้าทายพวกนั้นให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์โดยการขว้างหินก้อนแรก ด้วยการกระทำเช่นนี้ พระองค์ได้ฉีกหน้ากากของความมีศรัทธาแก่กล้าจากใบหน้าของพวกเขา ไม่มีคนใดที่ไม่มีบาป เราทุกคนต่างก็อ่อนแอ ถูกล่อลวง และล้มเหลว ต่อหน้าพระเจ้าไม่มีความแตกต่างระหว่างคนบาปและพวกหลอกลวงที่มีศรัทธาแก่กล้า เพราะทุกคนได้หลงไปและเลวทราม ใครก็ตามที่ละเมิดคำบัญชาข้อหนึ่ง ได้ทำลายกฎหมายทั้งหมดและสมควรได้รับหายนะนิรันดร์
ผู้อาวุโสและนักกฎหมายกำลังถวายพลีสัตว์ในพระวิหารเพื่อไถ่บาปของพวกเขา เพื่อสารภาพด้วยเหตุผลนั้นว่าพวกเขาเป็นคนบาป พระคำของพระคริสต์ได้แตะต้องความรู้สึกผิดชอบชั่วดี พวกเขาปรารถนาที่จะนับกุมชาวนาซาเร็ธ แต่มันเป็นพระองค์ที่เปิดเผยความชั่วร้ายออกมาและตัดสินพวกเขา ในเวลาเดียวกันพระองค์ได้รักษากฎหมาย ผู้กล่าวหาได้ก้มหัวลง รู้สึกว่าพวกเขาอยู่ในการทรงสถิตของบุตรพระเจ้า ทำให้เกรงขามโดยความบริสุทธิ์ของพระองค์
ผู้อาวุโสและพวกที่เห็นใจพวกเขาได้จากไปแล้ว และสถานที่ก็ว่างเปล่า พระเยซูเท่านั้นที่อยู่เบื้องหลังเพียงคนเดียว
ยอห์น 8:9ข-11
9 จนเหลือแต่พระเยซูกับหญิงคนนั้นซึ่งยังคงยืนอยู่ 10 พระเยซูก็ทรงยืดพระกายขึ้นตรัสถามว่า “หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนกันหมด? ไม่มีใครเอาโทษเจ้าเลยหรือ?” 11 นางทูลว่า “ไม่มีเลย พระเจ้าข้า”พระเยซูประกาศว่า “เราก็ไม่เอาโทษเจ้าเช่นกัน บัดนี้จงไปเถิด และจงทิ้งวิถีชีวิตที่ผิดบาปของเจ้า”
ที่นั่นมีหญิงที่ยืนอยู่ตัวสั่นเทิ้ม พระเยซูมองดูเธอด้วยความเมตตาและความยุติธรรมแล้วกล่าวว่า “คนกล่าวหาเจ้าอยู่ที่ไหน ไม่มีใครที่นี่ตัดสินและกล่าวโทษเจ้าได้หรือ” เธอรู้สึกว่าพระเยซูเป็นผู้บริสุทธิ์ และจะไม่ลงโทษเธอ กระนั้น พระองค์เป็นบุคคลผู้เดียวที่มีสิทธิจะกล่าวโทษเธอได้
พระเยซูรักคนบาป พระองค์เข้ามาแสวงหาผู้ที่เดินทาง พระองค์ไม่สามารถลงโทษหญิงบาป แต่ได้นำเสนอพระคุณของพระองค์แก่เธอ เพราะพระองค์ได้รับรู้และแบกบาปของเรา พร้อมจะตายเพื่อโลก พระองค์ได้รับรู้และแบกเอาการพิพากษาของหญิงผู้นั้นไว้แล้ว
ดังนั้น เขาได้หยิบยื่นการอภัยบาปทั้งสิ้นให้แก่คุณตั้งแต่พระองค์ได้ตายเพื่อคุณแล้ว จงเชื่อในความรักของพระองค์เพื่อว่าพระองค์จะทำให้คุณเป็นอิสระจากการพิพากษา ยอมรับวิญญาณการยกโทษบาปของพระองค์เพื่อว่าคุณจะไม่ตัดสินผู้อื่น จงอย่าลืมว่าคุณเป็นคนบาปด้วยเช่นกัน และไม่ได้ดีไปกว่าผู้อื่นเลย ถ้ามีคนคบชู้ คุณก็ไม่สะอาดด้วยหรือ ถ้ามีคนขโมย คุณล่ะสัตย์ซื่อไหม จงอย่าพิพากษาเพื่อว่าคุณจะไม่ถูกพิพากษาเช่นกัน ด้วยขนาดที่คุณตัดสินบางสิ่งออกไปจากตัว มันจะตัดสินตัวคุณด้วย เหตุใดคุณจึงสังเกตเห็นไม้ทั้งท่อนในตาของพี่น้อง และมองไม่เห็นไม้ขวางทั้งท่อนนั้นในตาของตนเองเล่า
พระเยซูได้บอกลาเธอไม่ให้ตกไปในการทำผิดนับแต่นั้นต่อไป คำบัญชาของพระเจ้าให้บริสุทธิ์ได้ถูกกำหนดไว้แล้วและไม่อ่อนโยน พระองค์ได้นำหญิงคนนี้ที่กระหายความรักเพื่อจะกลับมายังพระเจ้าและเพื่อให้สารภาพบาปของเธอ ดังนั้น เธอจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์จากพระโลหิตของพระเมษโปดก พระองค์ต้องการบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้จากเธอ แต่ได้ให้อำนาจแก่เธอที่เพียงพอแก่ผู้ที่หัวใจแตกสลาย เพื่อให้อยู่ในความบริสุทธิ์ ดังนั้น พระองค์ขอไม่ให้คุณทำบาปอีก พระองค์พร้อมที่จะได้ยินคำสารภาพบาปจากหัวใจของคุณ
คำอธิษฐาน: พระเยซู ลูกละอายในการทรงสถิตของพระองค์ เพราะลูกไม่ได้ดีไปกว่าคนล่วงประเวณี ยกโทษลูกที่ตัดสินและทำให้คนอื่นบาดเจ็บ ชำระล้างลูกจากความผิด ลูกขอบคุณในการยกโทษให้ลูก ลูกสรรเสริญพระองค์ที่พระองค์อดทนและเมตตา ช่วยลูกไม่ให้ทำผิดบาปนำตั้งแต่บัดนี้ ให้ความตั้งใจของลูกเข้มแข็งและทำให้ลูกมั่นใจในความบริสุทธิ์ นำลูกเข้าสู่ชีวิตที่บริสุทธิ์
คำถามที่:
- ทำไมผู้กล่าวโทษคนล่วงประเวณีเหล่านี้จึงถอนตัวจากที่แห่งนั้นที่พระเยซูอยู่