Waters of Life

Biblical Studies in Multiple Languages

Search in "Thai":
Home -- Thai -- John - 087 (The Holy Trinity descends on believers)
This page in: -- Albanian -- Arabic -- Armenian -- Bengali -- Burmese -- Cebuano -- Chinese -- Dioula? -- English -- Farsi? -- French -- Georgian -- Greek -- Hausa -- Hindi -- Igbo -- Indonesian -- Javanese -- Kiswahili -- Kyrgyz -- Malayalam -- Peul -- Portuguese -- Russian -- Serbian -- Somali -- Spanish -- Tamil -- Telugu -- THAI -- Turkish -- Twi -- Urdu -- Uyghur? -- Uzbek -- Vietnamese -- Yiddish -- Yoruba

Previous Lesson -- Next Lesson

ยอห์น - แสงสว่างส่องในความมืด
ศึกษาพระกิตติคุณของพระคริสต์ ตามคำบอกเล่าของยอห์น
ตอนที่ 3 - แสงส่องสว่างในหมู่อัครทูต (ยอห์น 11:55 - 17:26)
ค - คำอำลาในห้องชั้นบน (ยอห์น 14:1-31)

2. ตรีเอกานุภาพอันบริสุทธิ์ได้ลงมาบนผู้เชื่อ โดยพระองค์ผู้ปลอบโยน (ยอห์น14:12-25)


ยอห์น 14:15
15 “ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา”

ผู้ให้ความช่วยเหลือในการประกาศจะขอบคุณสำหรับกางเขน แต่ผู้ที่ไม่ได้ประกาศไม่รู้จักเสรีภาพของพระคริสต์ ถ้าคุณพบว่าการอธิษฐานและการเป็นพยานไม่มีผลอะไร จงตรวจตราตนเองว่าคุณกำลังดำรงอยู่ในความรักของพระคริสต์หรือไม่ หรือ ว่าบาปของคุณกำลังกีดกันจากพระพรนั้น จงสารภาพการขาดแคลนของคุณต่อหน้าพระเยซู เพื่อว่าธารแห่งพระพรจะไม่ถูกตัดออกจากสิ่งต่าง ๆ พระเจ้าให้พระบัญชามากมายกับคุณ คือ รักศัตรูของคุณ จงเฝ้าดูและอธิษฐานว่าคุณจะไม่เข้าไปในการล่อลวง จงดีเลิศเหมือนพระบิดาในสวรรค์นั้นดีเลิศ จงเข้ามาหาพระองค์พวกที่ทำงานหนักและมีภาระ แล้วพระองค์จะให้การพักผ่อนแก่คุณมีการสรุปข้อนี้ในหลักคำสอนอันประเสริฐ คือ จงรักกันและกันเหมือนกับที่เรารักเจ้า พระบัญชาของพระองค์ไม่ได้เป็นภาระหนัก แต่เป็นสิ่งที่ช่วยในการดำรงอยู่และเป็นสะพานของความเชื่อและความรักนั่นเอง

ใครก็ตามที่มีประสบการณ์ในการไถ่ของพระเยซู จะไม่สามารถอยู่เพื่อตนเองได้ แต่จะรับใช้พระคริสต์พระผู้ช่วยให้รอด

ยอห์น 14:16-17
16 เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้กับพวกท่าน เพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไป 17 คือพระวิญญาณแห่งความจริงซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ พวกท่านรู้จักพระองค์เพราะพระองค์สถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ท่ามกลางท่าน

ผู้ที่พยายามจะทำตามคำบัญชาของพระเยซูให้สำเร็จตามความต้องการของเขา จะพลาดและอยู่ในความหมดหวัง ด้วยเหตุนั้น พระเยซูได้อธิษฐานวิงวอนกับพระเจ้าเพื่อส่งผู้ปลอบโยน คือ พระวิญญาณบริสุทธิ์มาให้เรา พระองค์มีหน้าที่และงานหลายอย่างที่นี่ พระองค์เป็นพระวิญญาณแห่งความจริงผู้ที่สำแดงแก่เราถึงขนาดของบาป แล้วพระองค์วาดภาพพระเยซูที่ถูกตรึงไว้ต่อหน้าเรา และทำให้เราแน่ใจว่านี่คือพระบุตรที่มาจากพระเจ้า ซึ่งยกโทษบาปของเรา พระองค์ทำให้เราชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้าโดยพระคุณ พระวิญญาณที่อวยพรนี้ทำให้มีการบังเกิดครั้งที่สองแก่เรา พระองค์เปิดปากของเราเพื่อให้เรียกพระเจ้าว่าพระบิดา แล้วเรารู้สึกมั่นใจว่าเราเป็นลูกของพระเจ้าอย่างแน่แท้โดยพระวิญญาณแห่งบุตรบุญธรรม ในที่สุด พระองค์ได้กลายเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่แก้ต่างให้กับเรา พระองค์อยู่ข้าง ๆ เราและทำให้เรามั่นคงต่อเสียงกระซิบของซาตาน และทำให้เราแน่ใจว่าความรอดนั้นเสร็จสิ้น เราจะไม่สามารถพบกับสิ่งที่แน่นอนในการทดลอง หรือในความพึงพอใจของเราในโลกนี้ ยกเว้นผ่านทางผู้ปลอบโยนซึ่งพระเยซูส่งมาให้กับเรา

ไม่มีใครเป็นเจ้าของพระวิญญาณโดยธรรมชาติ ไม่ใช่ทั้งอัจฉริยะ หรือกวี หรือผู้ทำนายเหตุการณ์ในอนาคต พระวิญญาณนี้อยู่เหนือธรรมชาติ และเข้ามาเหนือผู้เชื่อในพระโลหิตของพระคริสต์ ผู้ที่ไม่รักพระเยซู หรือ ไม่ยอมรับพระองค์ไม่ได้มีพระวิญญาณที่อาศัยอยู่ในเขา แต่ผู้ที่รักพระเยซูและยอมรับความรอดของพระองค์ จะมีประสบการณ์ความปิติยินดีในการปฏิบัติ ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในหัวใจของเรา เรามีประสบการณ์ฤทธิ์เดชของพระเจ้าในท่ามกลางความอ่อนแอ พระเยซูทำให้คุณแน่ใจว่า ผู้ปลอบโยนนี้จะไม่ละทิ้งคุณในความตาย หรือ ในสถานที่แห่งการพิพากษาเพราะว่าพระองค์นั้นเป็นชีวิตนิรันดร์

ยอห์น 14:18-20
18 “เราจะไม่ละทิ้งพวกท่านไว้ให้เป็นลูกกำพร้า เราจะมาหาท่าน 19 อีกหน่อยหนึ่งโลกก็จะไม่เห็นเรา แต่พวกท่านจะเห็นเรา เพราะเรามีชีวิตอยู่ พวกท่านก็จะมีชีวิตอยู่ด้วย 20 ในวันนั้นท่านจะรู้ว่าเราอยู่ในพระบิดา และพวกท่านอยู่ในเราและเราอยู่ในท่าน

เมื่อผู้ทรยศได้ออกไปแล้ว พระเยซูได้แจ้งแก่สาวกว่า พระองค์ต้องจากพวกเขาไปในไม่ช้า และพวกเขาจะไม่สามารถติดตามพระองค์ได้ แต่ได้ทรงเสริมว่า พระองค์จะกลับมาหาพวกสาวกเป็นการส่วนตัว พระองค์รับรู้ถึงความกลัวของพวกเขา และการกล่าวของพระองค์มีสองความหมาย ประการแรก การเข้ามาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะพระเจ้าเป็นวิญญาณนี้ ประการที่สอง การเข้ามาในสง่าราศี ณ ตอนท้ายของยุค เพราะสองเหตุผลนี้ พระองค์ต้องจากพวกเขาไป และไปหายังพระบิดาของพระองค์ โดยปราศจากการอำลานี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะไม่ได้มาหาพวกเรา

พระวิญญาณนี้คือพระองค์ผู้เปิดตาและหัวใจในทันที เรารับรู้ว่าพระเยซูไม่ได้อยู่ในหลุมฝังศพเหมือนกับที่คนอื่นเป็น แต่พระองค์มีชีวิตและสถิตอยู่กับพระบิดา ชีวิตของพระองค์เป็นพื้นฐานของจักรวาลและความรอดของเรา เพราะว่าพระองค์ได้ชนะความตายจึงให้ชีวิตแก่เรา เพื่อว่าเราจะชนะความตายโดยความเชื่อ และอยู่ในความชอบธรรมของพระคริสต์ด้วย ศาสนาของเราเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวังใจ

พระวิญญาณที่ปลอบโยนอย่างแท้จริง คือ พระวิญญาณของพระเจ้า ผู้เข้ามาอาศัยในเรา และทำให้เราเชื่อว่าพระบุตรอยู่ในพระบิดา และพระบิดาอยู่ในพระบุตร ในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่สมบูรณ์ ความรู้ฝ่ายวิญญาณอันนี้ของตรีเอกานุภาพอันบริสุทธิ์ไม่ได้เป็นเหมือนการศึกษาคณิตศาสตร์ แต่เป็นการบังเกิดใหม่ในผู้เชื่อ ที่เราจะเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าอย่างที่พระเยซูเป็น เป็นความลี้ลับในพระวิญญาณเกินกว่าความเข้าใจของเราอย่างที่เป็นมนุษย์

พระเยซูไม่ได้กล่าวว่า พระองค์ปรารถนาจะดำรงอยู่ในเราโดยแยกเป็นอิสระ “แต่เราอาศัยอยู่ในเจ้าร่วมกันและโดยเชื่อมโยงกัน” คริสตชนไม่ได้อยู่ลำพังในวิหารของพระวิญญาณ พระองค์เป็นก้อนหินที่ถูกจัดไว้ในคฤหาสน์ของสวรรค์มากกว่า ผู้เชื่อทั้งหมดแบ่งปันในการพำนักในฝ่ายวิญญาณนี้ สัญญาที่ว่านี้เป็นพหูพจน์ คือ มีมากกว่าหนึ่ง “เจ้าอยู่ในเรา และเราในเจ้า” สามัคคีธรรมของทูตสวรรค์คือที่ ๆ พระเยซูเปิดเผยพระองค์เอง คุณสังเกตไหมว่า พระเจ้าสรุปคำสัญญานี้ด้วยคำสั่งที่ว่า “จงรักกันและกัน เหมือนที่เรารักเจ้า” มันไม่ได้เป็นฉันเท่านั้นที่ผูกพันกับพระคริสต์ แต่พวกเราทั้งหมดจะได้รับการเติมเต็มถึงความไพบูลย์ของพระเจ้า

คำอธิษฐาน: เราขอคำนับต่อหน้าพระองค์ พระเมษโปดกของพระเจ้า โดยการตายของพระองค์เราได้รับชีวิตนิรันดร์ ขอยกโทษความเชื่อน้อย ความโง่เขลาของเรา เพื่อว่าจะไม่มีอุปสรรคใดเกิดขึ้นระหว่างเรากับพระองค์ ขอให้เราเห็นพระองค์ในการถูกทดลองทั้งสิ้น และให้เราพำนักอยู่ในการรับรู้ที่สูงส่งเช่นนั้น เราพระขอบคุณที่ผู้ปลอบโยนของเราได้เข้ามา พระวิญญาณแห่งความจริงผู้ที่จะรักษาให้เราอยู่ด้วยกันตลอดกาลกับพระองค์

คำถามที่:

  1. อะไรเป็นคุณลักษณะที่พระเยซูประยุกต์ใช้ต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์

www.Waters-of-Life.net

Page last modified on March 12, 2020, at 02:56 PM | powered by PmWiki (pmwiki-2.3.3)