Previous Lesson -- Next Lesson
6. สันติสุขของพระคริสต์ในเรา ได้เอาชนะการทุกข์ทรมานของโลก (ยอห์น 16:25-33)
ยอห์น 16:25-26
25 “เราพูดเรื่องนี้กับพวกท่านโดยใช้เรื่องเปรียบเทียบ วันนั้นจะมาถึงเมื่อเราจะไม่พูดกับท่านโดยใช้เรื่องเปรียบเทียบอีก แต่จะบอกท่านถึงเรื่องพระบิดาอย่างแจ่มแจ้ง 26 ในวันนั้นพวกท่านจะทูลขอในนามของเรา และเราจะไม่บอกท่านว่าเราจะอ้อนวอนพระบิดาเพื่อท่าน
พระเยซูได้เปิดเผยความจริงของความประเสริฐโดยวิธีที่สำแดงตัวอย่าง และเครื่องหมายสัญลักษณ์ซึ่งได้ซ่อนความลี้ลับของความเป็นมนุษย์ที่ยังมีกิเลส แต่เปิดเผยต่อผู้ที่หิวกระหายความชอบธรรม พระเยซูกระหายที่จะให้สาวกเข้าใจอย่างชัดเจน และหวังสำหรับวันที่ยิ่งใหญ่ที่พระองค์จะฟื้นขึ้นมาจากความตาย และเสด็จขึ้นสู่สวรรค์เพื่อจะนั่งลงที่ด้านขวาของพระเจ้า พระองค์ส่งพระวิญญาณบนสวรรค์ไปยังพวกเขา และถือว่าเหตุการณ์การช่วยกู้เหล่านี้ใช้เวลาเพียงหนึ่งวันเท่านั้น เมื่อพระวิญญาณเข้ามาที่หัวใจของเหล่าสาวก นิทานเปรียบเทียบและสัญลักษณ์ก็จะจบสิ้นลง เพราะพระวิญญาณพระคริสต์จะสร้างแสงสว่างในหัวใจของผู้เชื่อ และมันจะจบลงในช่วงเวลาของนิทานเปรียบเทียบ พระเจ้าเป็นพระบิดา
และพระคริสต์เป็นพระบุตรของพระองค์ โดยปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะไม่มีมนุษย์คนใดสามารถรู้จักพระเจ้าได้แต่พระวิญญาณของพระบุตรนำเราเข้ามาในครอบครัวของพระองค์
คุณมีพ่อซึ่งเป็นมนุษย์ไหม คุณพูดกับเขาไหม เขาเอาใจใส่คุณไหม สิ่งเหล่านี้เป็นคำถามโดยสัญชาตญาณ ในระดับที่สูงขึ้นพระคำของพระเยซูและการปลอบโยนของพระวิญญาณได้ทำให้เรามั่นใจว่าพระเจ้าที่เป็นองค์บริสุทธิ์นั้น สถิตอยู่ทุกหนทุกทุกแห่ง และพระเจ้าผู้ที่ใกล้ชิดเป็นส่วนตัวของเราเป็นผู้ที่รักเรา เราเป็นลูกที่รักของพระองค์ แม้ว่าเราทั้งปวงเป็นคนบาป แต่ผ่านทางพระโลหิตของพระคริสต์ เราได้กลายเป็นคนบริสุทธิ์ต่อหน้าพระเจ้าแล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์เปิดปากของเราให้อธิษฐานอย่างแท้จริง เพราะว่าพระวิญญาณนี้เป็นของพระคริสต์ ในการอธิษฐานฝ่ายวิญญาณนั้นพระคริสต์พูดผ่านทางเรา ขอให้เราอธิษฐานสิ่งที่พระวิญญาณอธิษฐานด้วยความเชื่อมั่นในพระบิดา และในสามัคคีธรรมของพระบุตร คำอธิษฐานของคุณจะเป็นการสนทนาระหว่างพระวิญญาณในตัวคุณ และพระบิดาบนสวรรค์ ผู้ที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระบุตร
ยอห์น 16:26-28
26 และเราจะไม่บอกท่านว่าเราจะอ้อนวอนพระบิดาเพื่อท่าน 27 เพราะว่าพระบิดาเองก็ทรงรักพวกท่าน เพราะท่านรักเราและเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า สำเนาโบราณบางฉบับว่า 28 เรามาจากพระบิดาและเข้ามาในโลกแล้ว เราจะจากโลกนี้ไปหาพระบิดาอีก”
บิดาที่มิได้รักบุตรก็ไม่ใช่บิดา โดยการเปิดเผยพระนามของพระเจ้า พระเยซูได้ให้รูปแบบที่ธรรมดาแก่เราเพื่อตระหนักถึงความรักที่ทรงพลังของพระเจ้า การให้สิ่งที่สำคัญต่อพระนามของพระบิดาเป็นหลักของจุดมุ่งหมายพระคริสต์ คนที่รู้จักพระบิดารู้จักพระเจ้าและได้รับการเปลี่ยนแปลงมาสู่การเป็นลูกของพระเจ้า ที่ดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ ในพระนามนั้น เราได้พบกับพระกิติคุณที่สมบูรณ์ และความหวังเพื่อนิรันดร์ พระคริสต์ประกาศต่อคุณว่า ต่อแต่นี้ไปไม่มีความจำเป็นต้องมีผู้อยู่ตรงกลางและผู้ไกล่เกลี่ย เพราะว่าพระบิดาเองรักคุณ และพระองค์นั้นเต็มไปด้วยความรักและพระเมตตา ตั้งแต่พระคริสต์ได้ตายบนไม้กางเขนไม่มีอุปสรรคระหว่างเรากับพระบิดาอีก ความเชื่อในพระบุตรที่เป็นพระเมษโปดกของพระเจ้าได้ทำให้พระบิดาเทความรักของพระองค์ลงมายังผู้ที่รักพระคริสต์ ซึ่งเป็นผู้ที่ตระหนักรู้ถึงการเป็นพระเจ้าของพระคริสต์และการดำเนินการของพระองค์จากพระบิดาและ พระองค์ได้ดำรงอยู่ในพระบิดา ได้เข้าสนิทกับตรีเอกานุภาพอันบริสุทธิ์ พระองค์อยู่ในชีวิตของพระเจ้า และได้รับการเติมเต็มด้วยพระเมตตาของพระบิดา และมีความปิติยินดีในพระวิญญาณตลอดไป
ในประโยคเดียว พระคริสต์ได้ให้ภาพอัศจรรย์ของการไถ่ต่อสาวก พระองค์ได้เสด็จลงมาจากที่สูงของการเป็นพระเจ้า และได้เคลื่อนไปมาในโลกที่เป็นปริศนา ซึ่งมีความเกลียดชังและความเสื่อมทรามลง แต่เมื่อพระองค์ทำความชอบธรรมให้สำเร็จเพื่อมนุษยชาติบนไม้กางแขน พระองค์ได้จากโลกนี้ไปและเร่งรีบไปหาพระบิดาของพระองค์ ซึ่งเป็นแหล่งของชีวิตทั้งมวล
ยอห์น 16:29-30
29 พวกสาวกของพระองค์ทูลว่า “ตอนนี้พระองค์ตรัสอย่างแจ่มแจ้ง ไม่ได้ตรัสโดยใช้เรื่องเปรียบเทียบ 30 ตอนนี้พวกข้าพระองค์รู้แล้วว่าพระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง และไม่จำเป็นที่ใครจะทูลถามพระองค์อีก เพราะเหตุนี้พวกข้าพระองค์จึงเชื่อว่าพระองค์ทรงมาจากพระเจ้า”
เหล่าสาวกกำลังตระหนักรู้ถึงความยิ่งใหญ่ในความรักของพระเจ้า และการเป็นอยู่นิรันดร์ของพระเยซู พระเยซูเป็นพระเจ้าแท้ทรงรู้ทุกสิ่ง บริสุทธิ์และเป็นนิรันดร์ พวกสาวกไม่ได้รับรู้และไม่ได้จดจำว่าพระคริสต์เป็นความรักที่บังเกิดใหม่ เพราะฉะนั้น พวกเขาไม่ได้สำนึกยอมรับพระเจ้าในแก่นสารและไม่ได้เรียกพระองค์ว่าพระบิดา ทั้ง ๆ ที่ในความจริงแล้ว พระเยซูได้ประกาศอย่างกว้างขวางต่อพวกเขาถึงพระนามใหม่ของพระเจ้า และถึงความรักที่ไม่สิ้นสุดของพระองค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ยังไม่ได้สอนและทำให้สาวกของพระเยซูเข้าใจมากขึ้น ดังนั้น พวกเขาจึงได้ยอมรับเรื่องนี้อย่างกับเป็นทฤษฎี แต่พลาดในแก่นสารของลักษณะที่แท้จริงของพระองค์
ยอห์น 16:31-32
31 พระเยซูตรัสตอบพวกเขาว่า “ตอนนี้พวกท่านเชื่อแล้วหรือ? 32 นี่แน่ะ วันนั้นจะมา และเวลานั้นก็มาถึงแล้ว ที่พวกท่านจะต้องกระจัดกระจายไปยังที่อยู่ของท่านแต่ละคนและจะทิ้งเราไว้คนเดียว แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะพระบิดาสถิตอยู่กับเรา
ด้วยยิ้มที่ไม่แจ่มใส พระองค์พูดว่า “เจ้าจินตนาการโดยความฉลาดเท่านั้นหรือ ที่เจ้าจะเข้าใจตัวจริงของเรา ความรู้นั้นเป็นอย่างเดียวกับความเชื่อแท้หรือไม่ การทดสอบเกือบกำลังจะเริ่มขึ้น และสำแดงว่าการยอมรับนั้นขาดแคลนซึ่งความรัก เจ้าพลาดที่จะเข้าใจพระเจ้า เพราะว่าเจ้าไม่ได้เชื่อในความเป็นพระบิดาของพระองค์ เจ้าทั้งหมดจะหนีและละทิ้งเราไป ความเชื่อของเจ้าจะสำแดงความไม่แน่นอนและผันแปร”
“ในความตาย เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว เพราะพระบิดานั้นอยู่กับเรา” สิ่งนี้ขัดแย้งกับการร้องทูลของพระเยซูบนกางเขนหรือไม่ “พระเจ้าของข้า เหตุใดพระองค์จึงจากข้าพระองค์ไป” ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะว่าพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ได้ซ่อนหน้าของพระองค์จากพระบุตร แต่พระคริสต์คงเชื่อต่อไปในการทรงสถิตของพระบิดา การร้องขอของพระองค์ได้บ่งชี้ว่าพระเจ้าไม่เปลี่ยนแปลง “เราจะไม่ละจากพระเจ้าไปแม้ว่าเมื่อเราไม่เห็นพระองค์ เราได้อุทิศวิญญาณมาในมือของพระองค์” ความเชื่อของพระคริสต์ในความเป็นพระบิดาของพระเจ้า ได้มีชัยชนะเหนือคำพิพากษาที่ตกลงบนพระองค์เพื่อประโยชน์ของเรา ความรักของพระบุตรที่มีต่อพระบิดาได้จุดไฟความพิโรธของพระเจ้าที่เกิดขึ้น เนื่องมาจากหนี้ของเราที่สะสมไว้โดยความบาป ความหวังใจต่อเนื่องอย่างไม่เปลี่ยนแปลงของพระองค์ ได้เปิดประตูเพื่อเราจะเห็นพระบิดา เพราะว่าความตายของพระองค์อยู่ในแผนการที่มีกับพระบิดา เราอาจกล่าวว่า “ฉันไม่โดดเดี่ยว เพราะว่าพระบิดาอยู่กับฉัน”
ยอห์น 16:33
33 เราบอกเรื่องนี้กับพวกท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว”
พระเยซูได้สรุปว่า ข่าวสารการสั่งสอนของพระองค์ด้วยบันทึกคำปลอบโยนเพื่อผู้เชื่อทั้งหมด “เราได้อยู่สักครู่หนึ่งกับเจ้า และได้สอนเจ้าว่าสันติสุขของพระเจ้าจะเติมเต็มหัวใจของเจ้า ผู้ที่ไม่เชื่อไม่มีสันติสุข เราผู้เป็นพระบุตร ได้ยกโทษหัวใจของเจ้าและชำระภายในตัวของเจ้า เราใส่วิญญาณแห่งสันติสุขในเจ้า จงอยู่ในคำของเรา โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นผู้ปกป้องเจ้า เจ้าไม่มีการปกป้องนอกจากเรา การคืนดีของเจ้ากับพระเจ้าเป็นพื้นฐานของสันติสุขนั้น เจ้าไม่ได้มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ชัดเจนถ้าปราศการยกโทษบาปของเจ้าในโลหิตของเรา เราได้กู้เจ้าและพระวิญญาณของเราอยู่ในเจ้า สันติสุขของเราไม่ได้เป็นภาพลวงตาแต่เป็นความจริง เรามาเพื่อมอบสันติสุขแก่เจ้า จงยอมรับมันและเชื่อในเราเถิด”
“อย่าจินตนาการถึงสันติสุขที่รอคุณอยู่ในโลกนี้ มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ยังมีการดักซุ่มที่เป็นอันตรายหลายอย่าง คือ การข่มเหง ความเจ็บป่วย การหลอกลวง ความกลัว และ การตาย นักกฎหมายจะปฎิเสธคุณ และพวกฉาบฉวยจะล้อเลียนคุณ คำมุสาและปรัชญานับพันจะทดสอบความเชื่อของคุณแต่ความหยิ่งจะไม่ได้เข้ามาใกล้ จงอย่ารักเงิน ความร่ำรวยจะไม่ทำให้คุณปลอดภัย”
“ขอให้ตาของเจ้าถอยห่างจากโลก และ มองดูเราและเข้าใจพระคำของเรา พินิจพิเคราะห์ชีวิตของเรา และเข้าใจพระคำทำความรู้จักความรักของเรา และติดตามความถ่อมใจของเรา จงอยู่ในการเสียสละ และปฏิเสธตนเองของเรา เราได้เอาชนะโลกแล้ว และไม่ขออะไรสำหรับตนเอง เราเป็นแก่นสารขององค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า ในเราพระบัญชาของพระเจ้าได้สำเร็จแล้ว "จงบริสุทธิ์ เพราะว่าเราบริสุทธิ์" เราเป็นความสมบูรณ์ดีเลิศในความรัก ในเราเจ้าได้เห็นพระบิดา”
คุณเข้าใจการนำความสำคัญเข้ามาในการสนทนาที่สั่งสอนของพระเยซูไหม พระองค์ได้ตั้งคุณไว้ในสามัคคีธรรมของพระบิดา เพื่อว่าหัวใจของคุณจะยอมรับและตกลงร่วมกันกับสันติสุขของพระคริสต์ สันติสุขนั้นเป็นความจริงที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้เชื่อ พระคำจะดูว่าชั่วร้ายและทำให้คุณยุ่งยาก แต่ความเชื่อของคุณอยู่ในผู้มีชัยชนะเหนือความตาย และซาตานจะปล่อยให้คุณเป็นอิสระจากไฟของพระพิโรธของพระเจ้า และ การทรมานที่อยู่ ณ ภายนอก ผู้ที่เชื่อในพระคริสต์จะได้รับพระเมตตาของพระเจ้า ข่าวสารนี้จากพระเยซูได้เติมเต็มคุณหรือไม่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ในคุณได้กล่าวว่า “พระบิดา และ พระบุตรเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระวิญญาณอยู่ในเรา พระเจ้าองค์เดียวนั้นอยู่ในเรา เราอยู่ในพระเมตตาของพระองค์”
คำอธิษฐาน. พระเจ้า พระเยซูคริสต์ พระองค์ได้ชนะใจของฉัน ซื้อฉันไว้เพื่อพระองค์เอง พระองค์ได้รักษาฉันในการคุ้มครองของพระองค์จากกับดับของมาร และให้อิสระฉันจากปราการของคำมุสาของมัน พระองค์ได้มอบชีวิตนิรันดร์ให้กับฉัน ฉันไม่กลัวความตายขณะเมื่อรอคอยพระองค์ ขอรักษาฉันในน้ำพระทัยของพระองค์ และเติมฉันให้เต็มด้วยฤทธิ์เดชที่ฉันจะถวายพระสิริแก่พระองค์ด้วยทูตสวรรค์ทั้งสิ้น ในขณะที่ฉันนมัสการพระบิดา ขอให้ฉันรักพี่น้องและให้อภัยต่อผู้คน และเป็นผู้สร้างสันติสุขในขณะที่ได้รับการนำจากพระองค์ ฉันพึ่งพาพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ที่มีชัยชนะ
คำถามที่:
- เหตุใด และ โดยวิธีใดที่พระบิดารักเรา