Home
Links
Bible Versions
Contact
About us
Impressum
Site Map


WoL AUDIO
WoL CHILDREN


Bible Treasures
Doctrines of Bible
Key Bible Verses


Afrikaans
አማርኛ
عربي
Azərbaycanca
Bahasa Indones.
Basa Jawa
Basa Sunda
Baoulé
বাংলা
Български
Cebuano
Dagbani
Dan
Dioula
Deutsch
Ελληνικά
English
Ewe
Español
فارسی
Français
Gjuha shqipe
հայերեն
한국어
Hausa/هَوُسَا
עברית
हिन्दी
Igbo
ქართული
Kirundi
Kiswahili
Кыргызча
Lingála
മലയാളം
Mëranaw
မြန်မာဘာသာ
नेपाली
日本語
O‘zbek
Peul
Polski
Português
Русский
Srpski/Српски
Soomaaliga
தமிழ்
తెలుగు
ไทย
Tiếng Việt
Türkçe
Twi
Українська
اردو
Uyghur/ئۇيغۇرچه
Wolof
ייִדיש
Yorùbá
中文


ગુજરાતી
Latina
Magyar
Norsk

Home -- Thai -- John - 046 (Sifting out of the disciples)
This page in: -- Albanian -- Arabic -- Armenian -- Bengali -- Burmese -- Cebuano -- Chinese -- Dioula? -- English -- Farsi? -- French -- Georgian -- Greek -- Hausa -- Hindi -- Igbo -- Indonesian -- Javanese -- Kiswahili -- Kyrgyz -- Malayalam -- Peul -- Portuguese -- Russian -- Serbian -- Somali -- Spanish -- Tamil -- Telugu -- THAI -- Turkish -- Twi -- Urdu -- Uyghur? -- Uzbek -- Vietnamese -- Yiddish -- Yoruba

Previous Lesson -- Next Lesson

ยอห์น - แสงสว่างส่องในความมืด
ศึกษาพระกิตติคุณของพระคริสต์ ตามคำบอกเล่าของยอห์น
ตอนที่ 2 - แสงสว่างส่องเข้ามาในความมืด (ยอห์น 5:1 - 11:54)
ข - พระเยซูเป็นขนมปังแห่งชีวิต (ยอห์น 6:1-71)

5. การคัดกรองสาวกของพระองค์ (ยอห์น 6:59-71)


ยอห์น 6:59-60
59 พระองค์ตรัสสิ่งเหล่านี้ขณะทรงสั่งสอนอยู่ในธรรมศาลาในเมืองคาเปอรนาอุม60 สาวกของพระองค์หลายคนได้ฟังเช่นนั้นก็พูด ว่า “คำสอนนี้ยากจริง ใครจะรับได้?”

การกล่าวถึงวาทกรรมเรื่องขนมปังของพระเจ้า และการเลี้ยงดูด้วยตัวของพระเยซูนี้ได้ส่งมาถึงเราในโอกาสต่าง ๆ กัน พระองค์ได้ตอกย้ำบางหัวข้อและเจาะลึกมากขึ้นในสาระทีละน้อย อย่างไรก็ตาม ยอห์นได้รวบรวมการอภิปรายลงมาเป็นชุดหนึ่งที่สะสมไว้ เราเห็นพระเยซูในวิหารที่คาเปอร์นาอูมสั่งสอนผู้ฟังของเขาอย่างอ้อม ๆ ว่าพระองค์นั้นดีกว่าโมเสส และผู้เชื่อทั้งหมดควรจะเข้าร่วมและมีส่วนในพระกายและพระโลหิตของพระองค์

การเปิดเผยเช่นนั้นอยู่เหนือกว่าการเข้าใจรู้ซึ้งแม้แต่จากผู้ที่ติดตามอย่างภักดีของพระองค์ก็ตาม พวกเขาเริ่มถามและเพิ่มความสงสัยมากขึ้นพวกเขาได้แก้ปัญหาเพื่อที่จะเชื่อฟังพระเจ้าและปรนนิบัตรรับใช้พระองค์ แต่ก็สับสนโดยความไร้สาระในเรื่องพระกายและโลหิตที่ถูกกินและดื่ม ณ จุดสูงสุดของความงุนงงนั้น พระเจ้าได้เปิดจิตใจของผู้ติดตามที่สัตย์ซื่ออย่างเมตตาเพื่อที่จะเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งถึงขนมปังแห่งชีวิต

ยอห์น 6:61-63
61 พระเยซูทรงทราบว่าเหล่าสาวกของพระองค์กำลังบ่นกันเรื่องนี้ ก็ตรัสกับพวกเขาว่า “เรื่องนี้ทำ ให้พวกท่านขุ่นเคืองใจหรือ? 62 จะว่าอย่างไรถ้าท่านเห็นบุตรมนุษย์ขึ้นสู่สถานที่ซึ่งพระองค์เคยอยู่มาก่อน! 63 พระวิญญาณประทานชีวิต เนื้อหนังไม่สำคัญอะไรเลย ถ้อยคำที่เรากล่าวกับท่านเป็นวิญญาณและเป็นชีวิต

พระเยซูรับรู้ถึงความคิดของเหล่าสาวก และไม่ติเตียนคำถามนั้น คำบ่นว่าของพวกเขาไม่ได้เกี่ยวกับการออกนอกลู่นอกทางของพวกเขา อย่างกับผู้ไม่เชื่อ แต่มาจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับนิทานเปรียบเทียบในความล้ำลึกของพระคริสต์ แต่ก่อนหน้าพระเยซูจะให้ความรู้แก่พวกเขา พระองค์ทำให้ชัดเจนถึงความไม่ชัดเจนของนิทานเปรียบเทียบ เป็นคำอธิบายสมบูรณ์มากที่สุดในเรื่องแผนการกู้โลกนี้ พระองค์จะไม่ตายอย่างธรรมดา เพื่อได้รับสิ่งที่พึงพอใจของร่างกายของพระองค์ในฝ่ายวิญญาณ แต่จะเสด็จขึ้นไปหาพระบิดาอีกด้วยจากที่ ๆ พระองค์ได้เสด็จลงมา พระองค์เป็นผู้ที่มาจากสวรรค์ แต่จะไม่คงอยู่ในโลกนี้ พวกเขาเห็นพระองค์เดินในทะเลสาบ และตระหนักว่าพระองค์เป็นซุปเปอร์แมน พระองค์จะขึ้นไปหาพระบิดาเพื่อเทพระวิญญาณบนผู้ที่ติดตามพระองค์ นี่คือจุดประสงค์ของการตายของพระองค์และจุดมุ่งหมายของการเสด็จมา ของขวัญของพระองค์สำหรับพวกเขาไม่ใช่เพียงแต่นำมาให้กับพวกเขาแต่ยังเป็นเนื้อหนังของพระองค์เองอีกด้วยสิ่งนั้นเป็นมากยิ่งกว่าการที่พระองค์เข้ามาในหัวใจของเหล่าผู้ติดตาม เพราะว่าไม่ใช่ร่างกายที่เป็นวัตถุของพระองค์ที่เข้ามา แต่เป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ต่างหากที่เข้ามาในเรา

พระเยซูได้สำแดงว่าเนื้อหนังไม่ได้ให้ประโยชน์อะไร แท้จริงแล้ว เราได้ถูกสร้างอย่างสมบูรณ์และอยู่ในสภาพดี แต่ความคิดและการเป็นอยู่ของเรานั้นก็เสื่อมทราม ในร่างกายของเรา ๆ พบว่าไม่มีฤทธิ์อำนาจเพื่อการอาศัยอยู่อย่างแท้จริง แต่เพียงเพื่อกระทำบาปเท่านั้น ร่างกายของพระองค์มีแนวโน้มที่จะอ่อนแอ ดังนั้นพระองค์จึงกล่าวว่า “จงเฝ้าระวังและอธิษฐาน ด้วยเกรงว่าเจ้าจะเข้าอยู่ในการล่อลวง วิญญาณนั้นกระตือรือร้น แต่เนื้อหนังก็อ่อนกำลังลง”

สรรเสริญพระเจ้า พระเยซูได้ให้กำเนิดและส่งผ่านพระวิญญาณในร่างกายของพระองค์ตลอดเวลา การประทับอยู่ของพระวิญญาณในพระองค์นั้นเป็นเคล็ดลับของการมีชีวิตของพระองค์ พระองค์ปรารถนาที่จะมอบความเป็นหนึ่งเดียวของพระวิญญาณและพระกายนี้โดยการตายให้แก่เราอีกทั้งการฟื้นคืนพระชนม์ และการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระองค์ และการอาศัยอยู่ของพระวิญญาณในร่างกายที่อ่อนกำลังของเรา ก่อนหน้านี้ พระองค์ได้ยืนยันต่อนิโคเดมัสว่า น้ำและพระวิญญาณทำให้เราเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าได้ซึ่งอ้างถึงการบัพติศมาของยอห์นด้วยน้ำ และการบัพติศมาของพระวิญญาณที่เทศกาลเพนเตคอสเต ในบริบทของการสนทนาเกี่ยวกับขนมปังแห่งชีวิตนี้ พระคริสต์ได้อธิบายต่อเหล่าสาวกว่าพระองค์จะมาหาพวกเขา และเหนือพวกเขาเมื่อเขามีส่วนและเข้าร่วมในอาหารมื้อสุดท้าย นั่นคือ ด้วยเงื่อนไขว่าสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่ได้ให้ผลดีอะไร นอกจากว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเข้ามาหาเราคือพระวิญญาณที่จะชุบชีวิตฟื้นฟูกระตุ้นและเร้าใจ เนื้อหนังไม่ได้มีค่าอันใด พระวิญญาณของพระคริสต์เท่านั้นที่จะเป็นประกันการทรงสถิตของพระองค์ในตัวผู้ที่เชื่อ

พระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาหาเราได้อย่างไร นี่เป็นคำถามสำคัญสำหรับทุกคน ผู้เตรียมเข้าร่วมในพระกายของพระองค์เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวที่สมบูรณ์กับพระคริสต์ พระเยซูได้ตอบอย่างธรรมดาว่า "จงฟังคำของเรา จงเปิดหัวใจต่อมหาสมบัติของพระกิตติคุณ" พระคริสต์เป็นพระคำของพระเจ้า ผู้ที่ได้ยินพระคำและไว้วางใจในพระองค์จะเติมล้นไปด้วยพระวิญญาณ จงเติมเต็มความรักของเจ้าด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้าโดยการท่องจำข้อพระวจนะจำนวนมาก จงยืนอยู่บนพระสัญญา และจงยึดเอาพระสัญญา เจ้าจะกลายเป็นผู้มีกำลังมากยิ่งขึ้นกว่านักประดิษฐ์และการค้นพบของพวกเขา เพราะด้วยการช่วยกู้โดยพระคำของพระคริสต์นั้นพระผู้สร้างแห่งจักรวาลจะเข้ามาเหนือเจ้า จะมอบชีวิตและสิทธิอำนาจของพระองค์ให้แก่เจ้า

ยอห์น 6:64-65
64 ถึงกระนั้นก็มีบางคนในพวกท่านที่ไม่เชื่อ” เนื่องจากพระเยซูทรงทราบตั้งแต่แรกว่าคนใดในพวกเขาที่ไม่เชื่อและใครจะทรยศพระองค์ 65 พระองค์ตรัสต่อไปว่า “เพราะเหตุนี้เราจึงได้บอกท่านว่า ไม่มีใครมาหาเราได้ นอกจากพระบิดาจะทรงโปรดให้เขามา”

คนมากมายผู้ที่ได้ติดตามพระเยซู ได้ล้มเหลวที่จะเข้าใจจุดสำคัญนี้และละทิ้งพระองค์ไป การสนทนาเกี่ยวกับการกินเนื้อและดื่มโลหิตเป็นต้นเหตุสำคัญของพันธกิจชาวกาลิลีของพระองค์ และยังเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ติดตามมากมายละทิ้งพระองค์ไป ดังนั้น สาวกจำนวนมากได้ลดลงหลังจากการอภิปรายในครั้งนี้ ความคิดของผู้ที่ละทิ้งคือไม่พร้อมที่จะไปเกินกว่าข้อจำกัดโดยเหตุผลของมนุษย์ ที่จะพึ่งพาพระเยซูอย่างไม่มีเงื่อนไข พวกเขาคิดถึงความจริงของสวรรค์ของพระองค์ แต่ไม่กล้าทำพันธสัญญากับพระองค์บนพื้นฐานของการอุทิศถวายให้กับพระองค์นั่นเอง

พระเยซูได้บอกกับเหล่าสาวกว่า บางคนในพวกเขาต่อต้านพระวิญญาณและปิดตนเองพระเจ้าสามารถเห็นแต่ละคนในอารมณ์ของหัวใจของเขา พระองค์รู้ถึงการทรยศของยูดาส อิสคาริโอท ซึ่งผู้ที่ได้ร่วมคณะมาตั้งแต่ต้น ยูดาสไม่เต็มใจที่จะเปิดตนเองทั้งหมดต่อพระวิญญาณของความรักพระคริสต์ พระเยซูรู้เมื่อพระองค์พูดถึงความตายของพระองค์ว่าหนึ่งในพวกที่อยู่กับพระองค์จะทรยศ

โดยสรุป พระเยซูได้ตอกย้ำความล้ำลึกที่ไม่มีใครสามารถเชื่อในพระเยซูได้ นอกจากการงานของพระวิญญาณของพระเจ้าในชีวิตของเขา ไม่มีใครที่เรียกพระเยซูว่าพระเจ้าสามารถจะรับการกู้โดยพระวิญญาณ ความเชื่อของเราไม่เป็นเพียงแต่เป็นความเลื่อมใสศรัทธาเท่านั้น แต่เป็นความเป็นอันหนึ่งอันหนึ่งเดียวกันเป็นส่วนตัวกับพระเยซูโดยการงานของพระวิญญาณจงเปิดวิญญาณของท่านต่อแรงดึงดูดของพระวิญญาณพระบิดา จงอย่าต่อต้านความจริงข้อใดของพระเยซู แล้วคุณจะมีประสบการณ์ต่อการเสด็จมาของพระองค์ในตัวคุณเพื่อพักอาศัยอยู่ตลอดกาล พระองค์เป็นขนมปังแห่งชีวิตที่ได้ตระเตรียมไว้ให้กับคุณแล้ว

คำถามที่:

  1. ชีวิตที่มอบถวายแด่พระวิญญาณ ได้ดำเนินร่วมกับพระกายของพระคริสต์อย่างไร

www.Waters-of-Life.net

Page last modified on March 12, 2020, at 02:18 PM | powered by PmWiki (pmwiki-2.3.3)