Waters of LifeBiblical Studies in Multiple Languages |
|
Home Bible Treasures Afrikaans |
This page in: -- Albanian -- Arabic -- Armenian -- Bengali -- Burmese -- Cebuano -- Chinese -- Dioula -- English -- Farsi? -- French -- Georgian -- Greek -- Hausa -- Hindi -- Igbo -- Indonesian -- Javanese -- Kiswahili -- Kyrgyz -- Malayalam -- Peul -- Portuguese -- Russian -- Serbian -- Somali -- Spanish -- Tamil -- Telugu -- THAI -- Turkish -- Twi -- Urdu -- Uyghur? -- Uzbek -- Vietnamese -- Yiddish -- Yoruba
Previous Lesson -- Next Lesson ยอห์น - แสงสว่างส่องในความมืด
ศึกษาพระกิตติคุณของพระคริสต์ ตามคำบอกเล่าของยอห์น
ตอนที่ 1 - แสงจากสวรรค์ส่องสว่าง (ยอห์น 1:1 - 4:54)
ข - พระคริสต์นำสาวกของพระองค์ออกจากวงโคจรของการกลับใจสู่ความชื่นชมยินดีในงานสมรส (ยอห์น 1:19-2:12)
3. สาวก 6 คนแรก (ยอห์น 1:35-51)ยอห์น 1:43-46 ในข้อพระคัมภีร์ก่อนหน้านี้ เราได้อ่านถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสี่วันติดต่อกัน ในวันแรกนั้น มันเกี่ยวกับคณะที่มาจากเมืองเยรูซาเล็มในวันที่สองยอห์นได้ประกาศพระเยซูว่าเป็นพระเมษโปดกของพระเจ้า ในวันที่สามพระเยซูได้รับสาวกทั้งสี่ และในวันที่สี่พระองค์เรียกฟิลิป และนาธานาอัลเข้าไปร่วมในกลุ่มสาวก พระเยซูนั่นเองที่ทรงมองหาฟิลิป และไม่ต้องสงสัยว่าก่อนหน้านี้ เขาได้ยินจากยอห์นว่าพระเยซูอยู่ท่ามกลางพวกเขา เขาประหลาดใจเมื่อยอห์นได้ชี้ไปที่พระเยซูว่าเป็นพระเมษโปดกของพระเจ้า ฟิลิปไม่กล้าเข้าใกล้พระเยซู แม้ว่าเขาปรารถนาที่จะรู้จักกับพระองค์ และถือว่าตนเองไม่เหมาะสมที่จะมีสามัคคีธรรมกับพระองค์ ดังนั้นพระเยซูจึงได้เข้าไปหาเขา เอาจความหวาดหวั่นและกระวนกระวายใจออกไป และสั่งเขาให้ลุกขึ้นและติดตามพระองค์ไป พระเยซูมีสิทธิเลือกคนของพระองค์เอง เพราะว่าพระองค์ทรงสร้าง และรัก และไถ่พวกเขา มันไม่ใช่ว่าพวกเราที่เลือกยอมรับพระองค์ แต่พระองค์กลับทรงเห็นเราก่อน พระองค์ได้แสวงหาและพบเรา และเรียกเราให้มาสู่การรับใช้พระองค์ ไม่มีการติดตามใดที่ปราศจากการทรงเรียก ไม่มีการรับใช้ที่เป็นประโยชน์ใด ๆ ที่ปราศจากคำสั่งจากพระคริสต์ ใครก็ตามที่รับใช้โดยปราศจากการทรงเลือกไว้ในงานที่ทำในอาณาจักรของพระเจ้าได้ทำร้ายตนเองและผู้อื่น แต่ใครก็ตามที่ได้ยินพระคริสต์และพร้อมที่จะเชื่อฟัง จะชื่นชมยินดีต่อการเอาใจใส่ที่อ่อนโยนของพระคริสต์ พระเยซูจะรับผิดชอบต่อเขาตลอดไป ในไม่ช้าฟิลิปได้ออกไปประกาศ ได้พบกับนาธันนาเอลเพื่อนของเขา และได้มอบข่าวประเสริฐให้โดยแสดงในข่าวสารที่บอกกับคริสตจักรว่า "เราได้พบพระเมสสิยาห์แล้ว" ไม่ใช่ "ฉันได้พบ” แต่รวมตัวเขาเข้าไปด้วยอย่างถ่อมใจในคำสารภาพต่อคริสตจักรนั้น ปรากฏว่าพระเยซูได้แจ้งสาวกเกี่ยวกับเส้นทางภาระหน้าที่ของพระองค์โยเซฟเป็นบิดาของพระองค์โดยการรับเป็นบุตรบุญธรรม ผู้ซึ่งเลี้ยงดูพระองค์ให้เติบโตขึ้น พระเยซูไม่ได้กล่าวถึงสิ่งใดที่เกี่ยวกับการถือกำเนิดในเมืองเบธเลเฮม และในขั้นนี้ สาวกไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ นาธันนาเอลเป็นผู้มีทักษะในพระวจนะ ดังนั้นเขาได้แสวงหาหนังสือของโมเสสและผู้พยากรณ์คนอื่น และได้เรียนรู้ถึงพระสัญญาที่มุ่งตรงไปยังพระคริสต์ โดยรู้ว่าพระองค์จะมาถือกำเนิดในเบธเลเฮม และเป็นเชื้อสายของดาวิดและจะเป็นกษัตริย์เหนือประชากรของพระองค์ นาธันนาเอลพบว่าเป็นการยากจะยอมรับความจริงที่ว่าพระเมสสิยาห์จะมาจากนาซาเร็ธซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ติดโผในรายชื่อในพระคัมภีร์เดิมด้วยซ้ำ และยังไม่มีคำพยากรณ์ที่เชื่อมโยงไว้อีกด้วย นาธันนาเอลจำได้ว่าเมืองนี้อยู่ในแคว้น กาลิลีและมีภาพการกบฏซีล้อตของพวกที่รักชาติ และเป็นผู้กระตือรือร้นทางศาสนาที่ลุกขึ้นต่อต้านกรุงโรมและ ณ ที่นั้นการปฎิวัติจลาจลนั้นก็แหลกราญและเต็มไปด้วยการนองเลือด ความจริงเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวโยงต่อฟิลิป ความปิติยินดีของเขานั้นเปี่ยมล้นเมื่อได้พบกับพระคริสต์ ความกระตือรือร้นนั้นได้เอาชนะความกังวลของนาธันนาเอล และเขากล่าวตัดบทข้อโต้แย้งให้สั้นโดยกล่าวว่า “เข้ามาและมองดูเถิด” ภาษิตข้อนี้ในการประกาศได้เป็นพื้นฐานแห่งประสบการณ์ในความจริง และนำไปสู่ความจริงที่ว่า “เข้ามาและมองดู” จงอย่าโต้เถียงเกี่ยวกับพระเยซู แต่จงมีประสบการณ์ในฤทธิ์เดชและสามัคคีธรรมกับพระองค์ คำพยานของเราไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของภาพจินตนาการ แต่อยู่ที่ตัวบุคคลที่เป็นพระเจ้าแท้นั่นเอง คำอธิษฐาน: พระเยซูที่รัก ขอบคุณสำหรับความชื่นชมยินดีของพระองค์ที่หลั่งไหลเข้ามาในหัวใจของพวกเรา เคลื่อนเราเข้าไปในการสามัคคีธรรมอันงดงามของพระองค์เพื่อนำผู้อื่นมาถึงพระองค์ ให้ความปรารถนาแก่เราในการเทศนาด้วยความรักที่อดทนและยกโทษเราจากความกลัวทุกอย่าง และการล่าช้าและความอับอายที่เรามี เราขอประกาศพระนามพระองค์ด้วยความกล้าหาญ คำถามที่:
|