Waters of LifeBiblical Studies in Multiple Languages |
|
Home Bible Treasures Afrikaans |
This page in: -- Albanian -- Arabic -- Armenian -- Bengali -- Burmese -- Cebuano -- Chinese -- Dioula? -- English -- Farsi? -- French -- Georgian -- Greek -- Hausa -- Hindi -- Igbo -- Indonesian -- Javanese -- Kiswahili -- Kyrgyz -- Malayalam -- Peul -- Portuguese -- Russian -- Serbian -- Somali -- Spanish -- Tamil -- Telugu -- THAI -- Turkish -- Twi -- Urdu -- Uyghur? -- Uzbek -- Vietnamese -- Yiddish -- Yoruba
Previous Lesson -- Next Lesson ยอห์น - แสงสว่างส่องในความมืด
ศึกษาพระกิตติคุณของพระคริสต์ ตามคำบอกเล่าของยอห์น
ตอนที่ 3 - แสงส่องสว่างในหมู่อัครทูต (ยอห์น 11:55 - 17:26)
ง - คำอำลาบนหนทางสู่เกซเสมาเน (ยอห์น 15:1-16:33)
5. พระคริสต์ทำนายถึงความปิติยินดีของสาวก ในงานเลี้ยงฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ (ยอห์น 16:16-24)ยอห์น 16:16-19 ตลอดเวลาช่วงเย็น พระเยซูได้พูดถึงสามครั้งเกี่ยวกับการจากไปของพระองค์ การตอกย้ำนี้ทำให้พวกสาวกตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจเจตนาของพระองค์ แต่พระองค์ยังสัญญาว่าจะเสด็จกลับมา โดยอ้างถึงในขั้นแรกเกี่ยวกับการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์จากอุโมงค์ฝังศพ ซึ่งในไม่ช้าหลังจากนั้นสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นในช่วงฉลองเทศกาลปัสกา ทันทีนั้นเอง พระองค์ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาวกที่กำลังเจาะกำแพง นั่นเพื่อจะเป็นการลาหลังจากการมาเยี่ยมสั้น ๆ บนหนทางที่จะเสด็จกลับไปยังพระบิดาของพระองค์ เมื่อพระเยซูได้ทำนายในขณะที่พวกสาวกได้ปีนขึ้นไปที่ภูเขามะกอกเทศในตอนเย็น พวกเขาพลาดที่จะเข้าใจพระองค์ ก่อนหน้านี้ พระองค์ได้พูดกับเขาเกี่ยวกับแผนการของการจากไป ตอนนี้ พระองค์บอกพวกเขาถึงการแยกจากกันจริง ๆ ว่าเกือบจะเกิดขึ้นแล้ว พวกเขาได้สารภาพว่าแผนการเหล่านี้และ จุดประสงค์ยังเป็นมโนภาพพวกเขาไม่สบายใจ สับสนและเศร้าโศกเสียใจในการกลับบ้านของพระองค์สู่สวรรค์ ยอห์น 16:20-23 พระเยซูอ่านความคิดของสาวกออก และเข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังพูดกัน แม้ว่าพระองค์ไม่ได้ยินพวกเขาก็ตาม ในการตอบสนองต่อความคิดที่ผิดนั้น พระองค์ไม่ได้ทำให้ความกลัวของเขาสงบลง หรือ ทำให้ความเศร้านั้นเบาบางลง แต่พระองค์ได้เน้นย้ำว่า ในไม่ช้าจะมีความเจ็บปวด น้ำตา และ การคร่ำครวญมาก ซึ่งจะเขย่าชีวิตของพวกเขา บรรยากาศนั้นเหมือนกับความตายของกษัตริย์ที่ประเสริฐ ผู้คนทุกข์โศกและสูญเสียความหวัง ในขณะที่เหล่าสาวกเศร้าหมองศัตรูของพวกเขามองด้วยความพึงพอใจ คำว่าศัตรู นั้นพระเยซูหมายถึงโลกทั้งมวลโดยไม่มีแบ่งขอบเขต ไม่เพียงแต่ผู้ปกครองชาวยิวเท่านั้น คนทั้งหมดที่อยู่ข้างนอกคริสตจักรของพระคริสต์เป็นของโลกที่หลงหาย ซึ่งอยู่ไกลจากพระเจ้า และ เป็นผู้ที่เป็นกบฏและต่อต้านกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ยิ่งกว่านั้น พระเยซูได้สัญญากับเหล่าสาวกว่าพวกเขาจะพบกับความปิติยินดีที่ยิ่งใหญ่ ชั่วโมงของน้ำตาและการไว้ทุกข์จะสั้นเหมือนกับความเจ็บปวดในทันทีจากการให้กำเนิดบุตรมารดานั้นถือว่าความเจ็บปวดเช่นนี้สามารถทนทานได้ เมื่อเปรียบเทียบกับความปิติยินดีของการได้โอบทารกไว้ในอ้อมกอดของเธอ ณ สถานที่การฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ คำถามทั้งหมดของเหล่าสาวกเงียบสงบลงพระองค์ได้แก้ไขประเด็นปัญหาของความรู้สึกผิดเพื่อพวกเขา และได้เอาชนะปัญหาเรื่องการตาย การครอบครองของซาตานถูกเขย่ารวมทั้งความโกรธเคืองของพระเจ้านั้นไม่ได้กดดันและมีผลกับพวกสาวก อีกทั้งการปฏิเสธ ความกลัว และความไม่เชื่อของพวกเขาจะไม่ขัดขวางการเสด็จกลับมาของพระคริสต์และการยกโทษให้กับพวกเขา พวกชาวยิวนั้นไม่สามารถทำกับดักต่อเหล่าสาวกเพราะว่าพระเจ้ารักษาเขาไว้ ดังนั้นเราจึงได้พบว่ามีคำถามและทางเลือกที่ไม่ดีทั้งมวลซึ่งกวนใจสาวกอยู่ แต่พวกเขาได้พบกับคำตอบและพระเจ้ารักษาพวกเขาในการฟื้นคืนพระชนม์ของบุคคลที่เป็นขึ้นมาจากความตาย ยอห์น 16:24 ในตอนเริ่มการสนทนาเพื่อสั่งสอน พระเยซูได้ชักชวนสาวกของพระองค์ เพื่อให้ถามว่าพวกเขาต้องการสิ่งใด และพวกเขาจะได้รับสิ่งที่พระบิดาได้รับเกียรติ(ยอห์น14:13) คำขอร้องเหล่านี้จะครอบคลุมถึงการสร้างคริสตจักร และ การสร้างกิจกรรมการประกาศ เพราะว่าพระเยซูต้องการให้คนมากมายมีสามัคคีธรรมในความรักแบบตรีเอกานุภาพ ดังนั้น พระองค์จึงกระตุ้นเราให้ “แสวงหาแผ่นดินของพระองค์ และ ความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงให้” พระเยซูสัญญาว่าพระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานเพื่อความดีอันประเสริฐ พอ ๆ กับข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของโลก กระนั้น การมีสิ่งดีอันประเสริฐเป็นสิ่งที่สำคัญมาก่อนหน้าเรื่องต่าง ๆ ของโลก อะไรคือคำถามและคำร้องขอจากหัวใจของคุณ คุณจำเป็นต้องมีเงิน สุขภาพที่ดี และความสำเร็จหรือไม่ คุณถามหาจุดเชื่อมต่อระหว่างคุณและผู้อื่นหรือไม่ ความกังวลในเรื่องการเป็นอยู่และพระเมตตาคุณของพระเจ้าก่อกวนทำให้คุณรำคาญหรือไม่ คุณรู้สึกไหมถึงความว่างเปล่าด้วยการไม่มีอยู่ของพระวิญญาณจากชีวิตของคุณคุณรู้สึกถึงภาระแห่งความรู้สึกผิดและคุณกำลังทุกข์ทรมานเพราะการทดลอง หายนะ และ ความเจ็บปวดอยู่หรือไม่ คุณตัวสั่นเทาเพราะวิญญาณชั่วหรือไม่ คุณรอการมาของพระคริสต์และการกระจายข่าวการครอบครองสันติสุขของพระองค์หรือไม่ คำถามอะไรที่ก่อกวนวิญญาณจิตใจ และ ร่างกายของคุณอยู่หรือ คุณฉาบฉวยหรือลึกซึ้ง และเป็นคนที่คิดบวกหรือคิดลบ คุณรู้สึกน้อยใจง่าย ๆ หรือไม่ คุณขอต่อพระเจ้าให้เติมเต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือไม่ ขอทำให้แต่ละปัญหาของคุณเป็นสาระสำคัญในการอธิษฐาน จงเปิดหัวใจต่อพระบิดาบนสวรรค์แต่ไม่ใช่พูดจ้อไม่มีสาระในคำอธิษฐาน แต่จงคิดอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะพูด และจงคิดถึงประการแรกเกี่ยวกับของประทานและความสามารถ ที่พระเยซูได้มอบให้คุณแล้ว และขอบคุณพระองค์สำหรับสิ่งเหล่านี้ การขอบพระคุณมีประโยชน์ต่อเรา แล้วจึงจะสารภาพบาป เพราะว่าเมื่อขาดความเชื่อจะทำให้ความรักเยือกเย็นลง และความหวังใจลดลงเป็นความล้มเหลวต่อหน้าพระเจ้า จงสารภาพขอการยกโทษจากพระเจ้าสำหรับบาป และขอให้พระองค์สำแดงต่อคุณถึงสิ่งที่พระองค์ปรารถนาจากคุณ เผื่อว่าคุณอาจจะขอสิ่งที่ไม่ดี จงขอพระเมตตาและไว้วางใจที่พระองค์จะได้ยินคุณ จงอธิษฐานขออย่าลืมว่าพระเจ้าเป็นความรักและจงปรารถนาจะอวยพรคนอื่นเช่นกัน อธิษฐานวิงวอนเพื่อเพื่อน ๆ และศัตรูของคุณ ให้พระเจ้าอวยพรพวกเขาด้วยพระเมตตาที่ให้คุณเหมือนกัน คุณไม่ได้เป็นผู้ทนทุกข์ที่มีความต้องการเพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้คนทั้งมวลแบ่งปันในโชคชะตานี้ จงตั้งคำถามอย่างกล้าหาญด้วยเต็มขนาดโดยตรงต่อพระคริสต์ และถักทอมาลัยของการขอบพระคุณ และสารภาพไปรอบ ๆ ปัญหาและ จงทูลคำขอของคุณแทนผู้อื่น ทันทีนั้นคุณจะเรียนรู้ความลับของการอธิษฐานอย่างแท้จริงในพระนามของพระเยซู การอธิษฐานที่แท้จริงคือการสนทนากับพระเจ้าในการทูลวิงวอน ขอบพระคุณ และนมัสการ อย่าเพิ่มรายละเอียดโดยใช้คำที่หนวกหูในการสนทนาแต่จงพูดถึงสิ่งที่คุณคิดอย่างเรียบง่ายที่สุด เหมือนกับในขณะที่คุณกล่าวกับคุณพ่อคุณแม่ พวกพ่อค้าในวิหารถูกวินิจฉัยเมื่อพวกเขากระซิบกระซาบว่า “พระเจ้า ขอจงมีพระเมตตาต่อข้าพระองค์ที่เป็นคนบาป” พระบิดาบนสวรรค์ได้ทำให้ลาซารัสฟื้นจากความตายเมื่อพระคริสต์อธิษฐานอย่างเรียบง่ายเพื่อปลุกลาซารัส มันเป็นความเชื่อที่เราได้รับความรอด การช่วยเหลือและความสำเร็จ จงกล้าหาญและอธิษฐานต่อพระเจ้าโดยพระคุณ ความกล้า และ การขอบพระคุณ เพราะว่าคุณถูกเรียกว่าเป็นลูกของพระองค์ จงพูดอย่างปิติยินดีอย่างกับบุตรเถิด จงอย่าซ่อนสิ่งใดจากพระองค์เลย พระคริสต์กระหายที่จะมอบความปิติยินดีเหนือตัวของคุณ ขั้นแรก ไม่ใช่เพื่อเป็นการตอบสนองต่อคำอธิษฐานของคุณ แต่เพื่อโอกาสที่คุณได้เข้าเฝ้าพระองค์และพระบุตร อะไรที่สำคัญยิ่งไปกว่านี้สำหรับคุณล่ะหรือ พระเจ้าได้ให้ความไพบูลย์แก่เรา แต่จงจำไว้ว่าพระองค์นั้นแหละคือความไพบูลย์ พระเยซูต้องการให้ความปิติยินดีของเราเต็มบริบูรณ์ ความปิติยินดีนี้ได้เพิ่มพูนในตัวของเราเมื่อเราตระหนักว่าพระเยซูตอบคำอธิษฐานต่อเราผู้ที่ขาดแคลน พระองค์อวยพรผู้อื่นและกู้พวกเขาผ่านทางคำอธิษฐานของเราด้วยความปิติยินดีจะกลายเป็นความปราโมทย์ เมื่อเราเห็นพระเยซูเสด็จเข้ามาในเมฆของสวรรค์และแล้วเราจะเปล่งเสียงโห่ร้องความปิติยินดีนั้นออกมาการเสด็จมาที่น่าตื่นเต้นของพระคริสต์นี้เป็นหัวข้อที่สำคัญที่สุดของการอธิษฐานของคุณหรือไม่ คำอธิษฐาน: พระบิดาในสวรรค์ เราขอบพระคุณจากก้นบึ้งของหัวใจของเรา เพราะว่าพระองค์ได้ส่งบุตรชายของพระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ขอยกโทษความเอาใจใส่ต่อโลกนี้ และช่วยเราให้รับรู้ความสำคัญของไม้กางเขน ขอทำให้เราเป็นอิสระที่จะอธิษฐานอย่างตอบสนอง และที่จะพูดกับพระองค์เหมือนลูกพูดกับพ่อแม่แบบเรียบง่ายทั้งหมด ขอไถ่ศัตรูของเราด้วย ซึ่งเป็นผู้ที่เหน็ดเหนื่อยภายใต้ภาระแห่งบาป ที่พวกเขาเป็นผู้สร้างความเจ็บปวดด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยการหลอกลวงและความเกลียดชัง ขอปลดปล่อยพวกเขาจากพันธะ และที่เขาจะแบ่งปันความปิติยินดีในปัจจุบันกับเรา คำถามที่:
|